วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ระบบ AS/RS

AS/RS


    ระบบการจัดเก็บและเรียกคืนวัสดุอัตโนมัติ (Automated Storage/Retrieval System เรียกโดยย่อว่า AS/RS)  คือ  การทำงานของระบบการจัดเก็บในคลังสินค้าหรือโกดังที่มีการควบคุมด้วยระบบการจัดเก็บวัสดุ การรับวัสดุ รวมทั้งการเคลื่อนที่ของอุปกรณ์ขนถ่าย ที่ทำงานร่วมกับโรงงานและคลังสินค้า ซึ่งสามารถออกแบบการใช้งานให้เหมาะสมกับการทำงานลักษณะต่างๆได้โดยทั่วไปแล้วปัจจัยที่มีผลต่อความสามารถในการจัดเก็บและเรียกใช้ของอุปกรณ์แบบ AS/RS จะพิจารณาจากลักษณะโครงสร้างของหิ้งที่ใช้จัดเก็บ ความเร็วในการเคลื่อนของอุปกรณ์ AS/RS ทั้งในแนวดิ่งและแนวราบ

ระบบ AS/RS แบ่งออกเป็นแบบต่างๆดังนี้

-UnitLoadAS/RS
-MiniloadAS/RS
-Man-on-BoardAS/RS หรือ ManaboardAS/RS
-AutomatedItemRetrievalSystem
- Deep-Lane AS/RS

         องค์ประกอบพื้นฐานของระบบ AS/RS
1-โครงสร้างที่เก็บวัสดุ (Storage Structure)
2-เครื่อง S/R (Storage/Retrieval Machine)
3-หน่วยของการเก็บวัสดุ (Storage Module)
4-สถานีหยิบและฝากวัสดุ (Pickup and Deposit Station)

อุปกรณ์พิเศษของระบบ AS/RS
1-รถเคลื่อนย้ายช่องทางขนส่งวัสดุ (Aisle Transfer Car)
2-อุปกรณ์ตรวจสอบถังบรรจุวัสดุว่างเปล่า/เต็ม
3-สถานีวัดขนาดโหลด (Sizing Station)
4-สถานีบ่งชี้โหลด (Load Identification Station)

การประยุกต์ใช้ระบบ AS/RS
การแยกใช้งานของระบบ AS/RS ออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1-จัดเก็บและเรียกคืน Unit Load
2-หยิบวัสดุตามสั่ง (Order picking)
3-ระบบจัดเก็บวัสดุระหว่างกระบวนการ

การจัดเก็บวัสดุระหว่างกระบวนการ
1.ใช้เก็บชุดของชิ้นงานประกอบ
2.สนับสนุนการผลิตแบบ JIT
3.ใช้เป็นบัฟเฟอร์สำหรับจัดเก็บวัสดุ
4.สามารถใช้งานร่วมกันกับระบบบ่งชี้ชิ้นงานแบบอัตโนมัติ
5.ทำให้เกิดการควบคุมและการติดตามวัสดุอย่างมีประสิทธิภาพ
6.สนับสนุนการทำให้เกิดการทำงานแบบอัตโนมัติทั้งโรงงาน

ระบบการจัดเก็บสินค้าและเรียกคืนสินค้าอัตโนมัติ Automated Storage/Retrieval System (AS/RS)
คือ ระบบบริหาร การจัดเก็บสินค้า เก็บวัตถุอัตโนมัติ เหมาะกับบริษัทที่ต้องการลดการใช้งานพื้นที่ หรือต้องการเพิ่ม ปริมาณในการจัดเก็บมากขึ้น เช่น คลังสินค้าโกดังสินค้าอาคารจอดรถอัตโนมัตห้องเก็บสมุดอัตโนมัติ เป็นต้น


ระบบ ASRS จะมีการทำงานควบคู่อัตโนมัติอย่างเป็นระบบอยู่ ส่วน คือ ฮาร์ดแวร์ ใช้เทคโนโลยีโรบอทอัตโนมัติ กับซอร์ฟแวร์ที่สามารถพัฒนานำไปใช้ได้กับทุกพื้นที่

ประโยชน์ที่จะได้รับ
1.ลดพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้า
2.ลดพื้นที่ในการขนถ่ายสินค้า
3.เพิ่มปริมาณการจัดเก็บสินค้า
4.เพิ่มประสิทธิภาพในการเบิกจ่ายสินค้า
 5.ทำงานรวดเร็วแม่นยำ

วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ระบบขนส่งถ่ายวัสดุอัตโนมัติ

👉ระบบสายพานลำเลียง Belt Conveyor System👈

ระบบสายพานลำเลียง Belt Conveyor System เป็นระบบสายพานลำเลียงที่เหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมผลิตชิ้นงาน ทุกชนิด

ระบบสายพานลำเลียง Belt Conveyor System เป็นระบบสายพานลำเลียงที่เหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมผลิตชิ้นงาน ทุกชนิด




ระบบสายพานลำเลียง (Belt Conveyor) คือ อุปกรณ์ลำเลียง (Conveyor) ที่ใช้สายพาน (Belt) เป็นตัวนำพาวัสดุ ระบบสายพานลำเลียงทำหน้าที่เคลื่อนย้ายวัสดุจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง  หลังจากวัสดุหรือชิ้นงานผ่านกระบวนการตามขั้นตอนมา เมื่อมาถึงการขนย้ายหรือลำเลียงก็จะใช้ระบบสายพานลำเลียง (Belt Conveyor System) ในการเคลื่อนย้ายวัสดุหรือชิ้นงาน

ดังนั้น ระบบสายพานลำเลียงจึงเหมาะสำหรับ โรงงานอุตสาหกรรมทุกประเภท ที่ใช้ระบบสายพานลำเลียงในกระบวนการผลิต


ระบบสายพานลำเลียง (Belt Conveyor System) มี 4 ประเภท

1. ระบบสายพานลำเลียง Plastic Belt Conveyor System (แบบพลาสติก)

ระบบสายพานลำเลียง Plastic Belt Conveyor (แบบพลาสติก)
ระบบสายพานลำเลียง Plastic Belt Conveyor System (แบบพลาสติก) สำหรับลำเลียงชิ้นงานหรือวัสดุขึ้นในแนวลาดเอียง ในไลน์การผลิตที่มีการลำเลียงต่างระดับ ระบบสายพานลำเลียงแบบพลาสติก สามารถลำเลียงผ่านน้ำหรือลำเลียงชิ้นงานที่เปียกได้ และยังไม่เป็นสนิท ลักษณะการทำงานของระบบสายพานลำเลียงแบบพลาสติก จะลำเลียงจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง โดยการลำเลียงจะมีลักษณะแนวลาดเอียง ลำเลียงจากที่ต่ำขึ้นสู่ที่สูง องศาลาดเอียงของระบบสายพานลำเลียงแบบพลาสติก จะเริ่มตั้งแต่ 10องศา และไม่เกิน 45องศา เหมาะสำหรับงานลำเลียงประเภทยาง , อาหาร , บรรจุภัณฑ์หีบห่อ หรือ ลำเลียงสิ่งของที่ต้องผ่านเครื่อง X-Ray ... ข้อมูลเพิ่มเติม >> ระบบสายพานลำเลียง Plastic Belt Conveyor System (แบบพลาสติก)

2. ระบบสายพานลำเลียง Canvas Belt Conveyor System (แบบผ้าใบ)

ระบบสายพานลำเลียง Canvas Belt Conveyor System (แบบผ้าใบ)
ระบบสายพานลำเลียง Canvas Belt Conveyor System (แบบผ้าใบ) สำหรับลำเลียงชิ้นงานหรือวัสดุ ระบบสายพานลำเลียงแบบผ้าใบ สามารถทนความร้อนได้และมีความยืดหยุ่นค่อนข้างน้อยเมื่อรับแรงดึง ลักษณะการทำงานของระบบสายพานลำเลียงแบบผ้าใบจะลำเลียงจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง โดยสามารถขยับตัวระบบลำเลียงให้ตรงกับไลน์การผลิตได้ เหมาะสำหรับงานลำเลียงประเภทยาง , อาหาร เป็นต้น ...
ข้อมูลเพิ่มเติม >>  ระบบสายพานลำเลียง Canvas Belt Conveyor System (แบบผ้าใบ)

3. ระบบสายพานลำเลียง PVC Belt Conveyor System (แบบ PVC)

ระบบสายพานลำเลียง PVC Belt Conveyor System (แบบ PVC)
ระบบสายพานลำเลียง PVC Belt Conveyor System (แบบ PVC) สำหรับลำเลียงชิ้นงานหรือวัสดุที่มีน้ำหนักเบา ระบบสายพานลำเลียงแบบ PVC สามารถทนความร้อนได้และราคาถูก ลักษณะการทำงานของระบบสายพานลำเลียงแบบ PVC จะลำเลียงจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง เหมาะสำหรับงานลำเลียงในอุตสาหกรรมอาหาร สินค้าที่บรรจุหีบห่อที่มีน้ำหนักเบาและต้องการความสะอาด
ข้อมูลเพิ่มเติม >> ระบบสายพานลำเลียง PVC Belt Conveyor System (แบบ PVC)

4. ระบบสายพานลำเลียง Metal Detector Belt Conveyor System

ระบบสายพานลำเลียง Metal Detector Belt Conveyor Systemระบบสายพานลำเลียง Metal Detector Belt Conveyor System (เครื่องตรวจหาโลหะ) มีระบบสายพานลำเลียง 2 แบบ คือ 1.แบบพลาสติก 2. แบบ PVC สำหรับลำเลียงชิ้นงานหรือวัสดุเข้าเครื่องตรวจหาโลหะ หลังจากชิ้นงานหรือวัสดุผ่านกระบวนการขั้นตอนต่าง ๆ มาแล้ว เมื่อมาถึงเครื่องตรวจหาโลหะ ในรูปแบบบรรจุภัณฑ์หรือรูปแบบชิ้นงาน เช่น ซองพลาสติก กล่องกระดาษ ขวดแก้ว ยาง เครื่องตรวจหาโลหะใช้พลังงานแม่เหล็ก โดยทำให้เกิดสนามแม่เหล็ก (Electro Magnetic Field) เมื่อมีโลหะ เช่น เหล็กปนอยู่ในแผ่นยาง เครื่องจะทำการแจ้งเตือนในรูปแบบต่างๆ เช่น ร้องเตือน ผลักออก หรือหยุดเครื่อง


👉รถ AGV ในงานอุตสาหกรรม👈















       AGV  คือรถขนส่งเคลื่อนที่อัตโนมัติ AGV มีหลายชนิดให้เลือกตามความเหมาะสมของการใช้งานตั้งแต่ การใช้งานแบบลากจูง container ,แบบยก container จนถึงแบบรถยก (Forklift) ในลักษณะต่างๆ โดยมีระบบควบคุมเส้นทางและนำทางการขับเคลื่อน (The Vihicle Navigation & Guidance System) ด้วยการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็กที่ฝังอยู่ในพื้นผิวทางเดินรถ AGV หรือแบบควบคุมโดยการ ตรวจจับด้วยแสงเลเซอร์เพื่อให้รถ AGV สามารถเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางที่กำหนดได้

           รถ AGV แต่ละชนิดรับน้ำหนักได้ต่างกันตั้งแต่ 400-1,200 กิโลกรัม หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับการใช้งานแต่ละประเภท โดยมีความเร็วในการขับเคลื่อน 1.2-1.7 เมตร ต่อวินาทีรถ AGV ทุกคันจะติดตั้งระบบเลเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ประกันได้ว่ามีระดับความปลอดภัยสูงสุด โดยติดตั้งทั้งด้านหน้าและหลังของตัวรถ และแบ่งการเตือนภัยออกเป็น พื้นที่ คือ พื้นที่เตือนภัย( Warning Area)และพื้นที่หยุด (Stopping Area) กล่าวคือ ถ้ามีบุคคลเดินเข้าในเขตพื้นที่เตือนภัย รถ AGV จะลดความเร็วลงจากความเร็วสูงสุด (Maximum Speed) เป็นลักษณะแบบเคลื่อนที่ช้า (Crawling Speed) และถ้าตรวจจับได้ในพื้นที่หยุด รถ AGV จะหยุดทันที โดยระยะทางของพื้นที่เตือนและพื้นที่หยุด จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระดับความเร็วของรถ AGV
ทั้งนี้แบตเตอรี่ที่ใช้เป็นแบบ Maintenace Free สามารถใช้งานได้ติดต่อกันแบบต่อเนื่องนานถึง 8-10 ชั่วโมง โดยไม่ต้องนำแบตเตอรี่ออกจากตัวรถรถ AGV ทุกคันจะติดตั้งระบบเลเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ประกันได้ว่ามีระดับความปลอดภัยสูงสุด โดยติดตั้งทั้งด้านหน้าและหลังของตัวรถ และแบ่งการเตือนภัยออกเป็น พื้นที่ คือ พื้นที่เตือนภัย( Warning Area)และพื้นที่หยุด (Stopping Area) กล่าวคือ ถ้ามีบุคคลเดินเข้าในเขตพื้นที่เตือนภัย รถ AGV จะลดความเร็วลงจากความเร็วสูงสุด (Maximum Speed) เป็นลักษณะแบบเคลื่อนที่ช้า (Crawling Speed) และถ้าตรวจจับได้ในพื้นที่หยุด รถ AGV จะหยุดทันที โดยระยะทางของพื้นที่เตือนและพื้นที่หยุด จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระดับความเร็วของรถ AGV
ทั้งนี้แบตเตอรี่ที่ใช้เป็นแบบ Maintenace Free สามารถใช้งานได้ติดต่อกันแบบต่อเนื่องนานถึง 8-10 ชั่วโมง โดยไม่ต้องนำแบตเตอรี่ออกจากตัวรถรถ AGV ทุกคันจะติดตั้งระบบเลเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ประกันได้ว่ามีระดับความปลอดภัยสูงสุด โดยติดตั้งทั้งด้านหน้าและหลังของตัวรถ และแบ่งการเตือนภัยออกเป็น พื้นที่ คือ พื้นที่เตือนภัย( Warning Area)และพื้นที่หยุด (Stopping Area) กล่าวคือ ถ้ามีบุคคลเดินเข้าในเขตพื้นที่เตือนภัย รถ AGV จะลดความเร็วลงจากความเร็วสูงสุด (Maximum Speed) เป็นลักษณะแบบเคลื่อนที่ช้า (Crawling Speed) และถ้าตรวจจับได้ในพื้นที่หยุด รถ AGV จะหยุดทันที โดยระยะทางของพื้นที่เตือนและพื้นที่หยุด จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระดับความเร็วของรถ AGV
ทั้งนี้แบตเตอรี่ที่ใช้เป็นแบบ Maintenace Free สามารถใช้งานได้ติดต่อกันแบบต่อเนื่องนานถึง 8-10 ชั่วโมง โดยไม่ต้องนำแบตเตอรี่ออกจากตัวรถ

ประโยชน์ของรถ AGV

1.คุ้มค่ากับการลงทุน
2. ลดต้นทุนในการผลิต
3. ประหยัดพื้นที่ใช้สอย
4. ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
5. ปลอดภัยไร้คนขับ
6. ทำให้งานหนักเป็นงานง่าย
7. ง่ายต่อการปรับเปลี่ยนเส้นทาง
8. เทคโนโลยีทันสมัยคุณภาพสูง
9. เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
10. ลดปัญหาเรื่องบุคลากร
11. รักษาสิ่งแวดล้อม

การนำไปใช้งาน

- ขนส่งวัตถุุดิบ
         ใช้แทนการขนส่งวัตถุดิบโดยใช้แรงงานคน หรือทดแทนการใช้สายพานลำเลียง
- สถานีประกอบงานบนตัวรถ 
         การนำรถเอจีวีไปใช้เป็นสถานีประกอบงาน เป็นรูปแบบการนำไปใช้ที่มีประสิทธิภาพในสายงานการผลิต
- ลำเลียงสินค้าสำเร็จรูป
         ในกระบวนการส่งมอบสินค้าสำเร็จรูปย่อมต้องการ การขนส่งที่ปลอดภัยต่อสินค้าเพื่อป้องกันการเสียหาย เอจีวีเป็นคำตอบที่มีศักยภาพครบทั้งเรื่องการควบคุมกระบวนการ และการส่งมอบที่ประหยัดเวลาสูงสุด

วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2562

หุ่นยนต์ส่งของ

      

หุ่นยนต์ส่งของถึงประตูบ้านร่วมกับบริการส่งพัสดุไร้คนขับ


         หุ่นยนต์ที่ใช้มีชื่อว่า Digit เป็นหุ่นยนต์สองขาที่ติดตั้ง lidar และกล้อง Srereo ไว้ตรงศีรษะสำหรับจับสภาพแวดล้อมโดยรอบ มันสามารถแบกของได้หนักถึง 18 กิโลกรัม มันจะโดยสารไปกับรถยนต์ไร้คนขับจากนั้นก็จะทำหน้าที่ขนของจากท้ายรถเดินไปส่งที่หน้าประตูบ้านในระยะ 15 เมตรห่างจากตัวรถ ซึ่งนี่ถือเป็นการทดลองบริการรูปแบบใหม่ที่ต่อยอดมาจากเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการ robotaxi ในปี 2021
       เมื่อรถมาถึงปลายทาง ประตูด้านหลังก็จะเปิดออก จากนั้นหุ่นยนต์ Digit ก็จะกางตัวเองออกมา ทำการยกของไปส่งยังจุดหมาย การสื่อสารระหว่างหุ่นยนต์กับรถนั้นถือเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญ ตัวรถจะมีการแชร์ข้อมูลระหว่างกันก่อนที่จะส่งหุ่นยนต์ออกไป ซึ่งใน 30 วินาทีแรกที่หุ่นเริ่มทำงานมันจะยังไม่รู้ว่าอะไรคืออะไร ต้องอาศัยข้อมูลจากรถยนต์มาบอกทาง ระหว่างที่หุ่นเดินออกไปก็จะส่งข้อมูลกลับมายังรถ ในกรณีที่หุ่นยนต์เกิดปัญหาเพื่อช่วยร่วมกันตัดสินใจได้แน่นอนว่าหุ่นยนต์ Digit ไม่ใช่แค่ตัวเลือกเดียวของ Foed เค้ายังเปิดกว้างสำหรับหุ่นยนต์รูปแบบอื่นๆ แต่หุ่นยนต์แบบสองขานั้นมีข้อได้เปรียบตรงที่สามารถเดินขึ้นลงบันไดได้ดีกว่าหุ่นยนต์ขนของแบบสี่ล้อ
         บริการส่งสินค้าแบบไร้คนขับและยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองใกล้เป็นจริงเข้ามาทุกที แต่ก็ยังมีประเด็นที่ต้องคำนึงถึง เช่น กรณีผู้รับสินค้าไม่อยากเดินออกจากบ้านไปรับของถึงริมถนน (หรือถ้าคุณเมาค้าง แล้วสั่งอาหารมากินที่บ้าน ก็คงไม่อยากเดินออกไป) ด้วยเหตุนี้เอง Ford จึงกำลังหาทางแก้ปัญหาดังกล่าว ราวกับว่าหลุดออกมาจากหนัง sci-fi เลยทีเดียว
         “Digit” เป็นหุ่นยนต์สองขาที่สร้างโดย Agility Robotics ซึ่งออกแบบมาเพื่อส่งสินค้าจากตัวรถถึงประตูบ้านคุณ เจ้าหุ่นยนต์นี้จะนั่งพับอยู่ท้ายรถ และเมื่อถึงที่หมายก็จะยืดตัวพร้อมส่งสินค้า ตัว Digit เองไม่ได้แค่ดูเหมือนคนเท่านั้น แต่ลักษณะการเดินยังเหมือนอีกด้วย
      Digit สามารถส่งพัสดุได้หนักถึง 40 ปอนด์ (ประมาณ 20 กิโลกรัม) เดินขึ้นลงบันไดและเดินบนพื้นที่ไม่สม่ำเสมอได้ และยังสามารถควบคุมการทรงตัวได้หากโดนชน ตัวหุ่นยนต์จะเดินจากตัวรถขนส่งไปยังประตูบ้านโดยได้รับข้อมูลที่เชื่อมโยงกับรถส่งสินค้าไร้คนขับ ตัวรถจะสร้างแผนที่บริเวณรอบๆ อย่างละเอียด และแชร์ข้อมูลแบบไร้สายไปยังหุ่น Digit และจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลนี้ ทั้ง Digit กับรถก็ทำงานร่วมกันเพื่อดูว่าทางเดินไหนเหมาะสมที่สุด